ศุกร์. ต.ค. 17th, 2025

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตั้ง “กองปราบธุรกิจผิดกฎหมาย” กวาดล้างนอมินี-บัญชีม้า ให้สิ้นซาก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ตั้ง “กองปราบธุรกิจผิดกฎหมาย” กวาดล้างนอมินี-บัญชีม้า ให้สิ้นซาก

 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งเครื่องปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย ตั้งหน่วยงานป้องกันและปราบปราม รับผิดชอบโดยตรง พร้อมตั้ง “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย” กวาดล้างให้สิ้นซากนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดี เปิดเผยว่า กรมได้จัดตั้งกองป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย เพื่อรับผิดชอบในการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายโดยตรง และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและปราบปรามการฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมกันนั้น ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย โดยมีอธิบดีกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า เป็นประธาน ซึ่งในการประชุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ต.ค.68 ได้กำหนดกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและปราบปรามธุรกิจที่หลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านการป้องกันการจดทะเบียนธุรกิจ คณะอนุกรรมการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ คณะอนุกรรมการด้านการตรวจสอบบัญชีธุรกิจ และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามภารกิจในแต่ละด้าน สำหรับแนวทาง วิธีการตรวจสอบ รวมทั้งมาตรการในการป้องกันและปราบปรามธุรกิจหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมายนั้น คณะอนุกรรมการแต่ละด้านจะพิจารณากำหนดต่อไป หากพบการกระทำความผิดจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ ปัจจุบัน แม้หน่วยงานภาครัฐเดินหน้าปราบปรามนิติบุคคลที่หลีกเลี่ยง หรือประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และบุคคลต่างด้าวจดทะเบียนนิติบุคคลโดยอาศัยคนไทยเป็นตัวแทนอำพรางหรือนอมินี (นอมินี) รวมถึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเปิดบัญชีกับธนาคาร และหลอกลวงประชาชนในลักษณะบัญชีม้าแบบนิติบุคคล อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก แต่สถานการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่ลดความรุนแรงลง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน

“การป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายในรูปแบบของคณะกรรมการฯและการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเป็นการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภารกิจภาครัฐ การลงทุน และการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนเป็นไปด้วยความสะดวก ก่อให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมถึงให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาประเทศอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปี 68 กรมได้กำหนดแผนตรวจสอบนอมินี โดยเน้น 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่มีต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทย มีสัดส่วนการถือหุ้นตั้งแต่ 0.01-49.99% และอาจมีความเสี่ยงให้คนไทยถือหุ้นแทน เพื่อเลี่ยงการปฏิบัติตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ได้แก่ svong-1

1.ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก

2.ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์

3.ธุรกิจ e-Commerce ขนส่ง และคลังสินค้า

4.ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต

5.ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร

6.ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป รวม 46,918 ราย รวมถึงการตรวจสอบธุรกิจที่มีผู้แจ้งเบาะแสด้วย

 

By svong-1

Related Post