ประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ แคนาดา
แคนาดา ประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ เป็นดินแดนที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ชนพื้นเมืองดั้งเดิม ชาวยุโรปผู้มาเยือน ไปจนถึงการเป็นประเทศที่มีความทันสมัยและเปี่ยมด้วยธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ของ เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน โดยมี ชนพื้นเมืองดั้งเดิม (Indigenous Peoples) ซึ่งประกอบด้วย First Nations, Inuit และ Métis อาศัยอยู่ทั่วดินแดนแห่งนี้ พวกเขามีวัฒนธรรม ภาษา และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ โดยหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ถึงการตั้งถิ่นฐานมายาวนานกว่า 10,000 ปี การมาถึงของชาวยุโรปเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยนักสำรวจชาวไวกิ้งเชื่อว่าเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่มาถึง แต่การสำรวจและตั้งถิ่นฐานอย่างจริงจังเริ่มต้นโดย จอห์น คาบอต (John Cabot) นักสำรวจชาวอิตาลีที่เดินทางภายใต้ธงชาติอังกฤษในปี ค.ศ. 1497 และ ฌากส์ การ์ตีเย (Jacques Cartier) นักสำรวจชาวฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1534 ผู้ซึ่งประกาศให้ดินแดนแห่งนี้เป็นของฝรั่งเศสและตั้งชื่อว่า “แคนาดา” ซึ่งมาจากคำว่า “kanata” ในภาษา Wyandot ที่แปลว่า “หมู่บ้าน” หรือ “ถิ่นฐาน” ในช่วงหลายศตวรรษต่อมา เป็นสมรภูมิความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษเพื่อแย่งชิงอำนาจและดินแดน สงครามเจ็ดปี (Seven Years’ War) จบลงด้วยชัยชนะของอังกฤษในปี ค.ศ. 1763 ทำให้ดินแดนส่วนใหญ่ของ ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษในปี ค.ศ. 1867 ดินแดนต่างๆ ของ ได้รวมตัวกันเป็น สมาพันธ์ (Confederation of Canada) ภายใต้พระราชบัญญัติอเมริกาเหนือของอังกฤษ (British North America Act) ถือเป็นการกำเนิดของประเทศ ในฐานะอาณานิคมกึ่งปกครองตนเองของอังกฤษ และค่อย ๆ พัฒนาสู่การเป็นประเทศเอกราชอย่างสมบูรณ์ในเครือจักรภพ svong-1
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและหลากหลาย
แคนาดามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่เมืองใหญ่ที่คึกคักไปจนถึงธรรมชาติอันบริสุทธิ์ตระการตา นี่คือตัวอย่างบางส่วน:
น้ำตกไนแอการา (Niagara Falls), ออนแทรีโอ: หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นกลุ่มน้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่าง กับสหรัฐอเมริกา ชมความงามของน้ำตกได้จากจุดชมวิวต่าง ๆ หรือล่องเรือเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อสัมผัสความยิ่งใหญ่
อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park), อัลเบอร์ตา: อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของแคนาดา ตั้งอยู่ในเทือกเขาร็อกกี้อันงดงาม โดดเด่นด้วยทะเลสาบสีฟ้าครามใสอย่าง Lake Louise และ Moraine Lake, ยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ, ป่าสนหนาทึบ และสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เป็นสวรรค์ของนักเดินป่า นักปั่นจักรยาน และผู้รักธรรมชาติ
เมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver), บริติชโคลัมเบีย: เมืองชายฝั่งทะเลที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขาและมหาสมุทร มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สถานที่น่าสนใจได้แก่ Stanley Park, Gastown, Granville Island และย่านชายหาดอันงดงาม
เมืองโตรอนโต (Toronto), ออนแทรีโอ: เมืองที่ใหญ่ที่สุดของ และศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม มี CN Tower เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น, Royal Ontario Museum, Art Gallery of Ontario และ Kensington Market ที่มีชีวิตชีวา
เมืองควิเบกซิตี (Quebec City), ควิเบก: เมืองหลวงของมณฑลควิเบก เป็นเมืองเดียวในอเมริกาเหนือที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปเก่าแก่ ภาษาฝรั่งเศสที่ใช้เป็นหลัก และบรรยากาศโรแมนติกราวกับเดินอยู่ในเมืองยุโรปโบราณ
เมืองมอนทรีออล (Montreal), ควิเบก: เมืองใหญ่อันดับสองของ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมฝรั่งเศสและอังกฤษได้อย่างลงตัว มีโบสถ์ Notre-Dame Basilica ที่งดงาม, Old Montreal ที่มีเสน่ห์ และ Plateau Mont-Royal ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารเก๋ไก๋
เมืองวิกตอเรีย (Victoria), บริติชโคลัมเบีย: เมืองหลวงของบริติชโคลัมเบีย ตั้งอยู่บนเกาะแวนคูเวอร์ มีบรรยากาศแบบอังกฤษ โดดเด่นด้วยรัฐสภา (Parliament Buildings), โรงแรม Empress และ Butchart Gardens ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่สวยงามระดับโลก
เป็นประเทศที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เมืองใหญ่ หรือธรรมชาติอันน่าทึ่ง ก็ล้วนสามารถค้นพบสิ่งที่น่าประทับใจในดินแดนแห่งนี้ได้เสมอ.