จันทร์. มิ.ย. 30th, 2025

ประวัติ ฟุตบอลยูโร จากแนวคิดสู่มหกรรมลูกหนังแห่งทวีปยุโรป

ประวัติ ฟุตบอลยูโร จากแนวคิดสู่มหกรรมลูกหนังแห่งทวีปยุโรป

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (UEFA European Championship) หรือที่รู้จักกันในชื่อสั้น ๆ ว่า “ยูโร” เป็นหนึ่งในการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก รองจากฟุตบอลโลกเท่านั้น การแข่งขันนี้จัดขึ้นทุก ๆ สี่ปี โดยรวบรวมทีมชาติชั้นนำจากทั่วทวีปยุโรปมาประชันฝีเท้า เพื่อชิงความเป็นหนึ่งแห่งทวีป

จุดกำเนิด: ความฝันของ อองรี เดอลาเน่ย์

แนวคิดในการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับทีมชาติของยุโรปถูกเสนอขึ้นครั้งแรกโดย อองรี เดอลาเน่ย์ (Henri Delaunay) เลขาธิการทั่วไปของสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (French Football Federation) ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1920 แต่กว่าความฝันของเขาจะเป็นจริงก็ใช้เวลาเกือบ 30 ปี น่าเสียดายที่เดอลาเน่ย์เสียชีวิตในปี ค.ศ. 1955 ก่อนที่การแข่งขันครั้งแรกจะเกิดขึ้น แต่เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ถ้วยรางวัลที่มอบให้กับทีมชนะเลิศจึงถูกตั้งชื่อว่า “ถ้วยอองรี เดอลาเน่ย์” (Henri Delaunay Cup)สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) ได้เริ่มก่อตั้งการแข่งขันนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1958 โดยใช้ชื่อในยุคแรกว่า “ยูโรเปียน เนชันส์ คัพ (European Nations’ Cup)”

การแข่งขันครั้งแรก: ยูโร 1960

การแข่งขันฟุตบอล ยูโรครั้งแรกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1960 โดยมีฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในรอบสุดท้าย มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 17 ประเทศในรอบคัดเลือก แต่มีเพียง 4 ทีมเท่านั้นที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ซึ่งประกอบด้วย สหภาพโซเวียต, ยูโกสลาเวีย, เชโกสโลวาเกีย และฝรั่งเศสสหภาพโซเวียต กลายเป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ทีมแรก ด้วยการเอาชนะยูโกสลาเวีย 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศที่กรุงปารีส

ฟุตบอลยูโร

การเติบโตและการขยายตัว

ในช่วงแรก การแข่งขันยูโรยังมีขนาดเล็ก มีเพียง 4 ทีมในรอบสุดท้าย จนกระทั่งปี ค.ศ. 1980 ได้มีการขยายจำนวนทีมในรอบสุดท้ายเป็น 8 ทีม และในปี ค.ศ. 1996 ก็ได้เพิ่มเป็น 16 ทีม ซึ่งทำให้การแข่งขันมีความเข้มข้นและน่าติดตามมากยิ่งขึ้นการแข่งขันยูโรยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 เป็นต้นมา ได้มีการเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายเป็น 24 ทีม ซึ่งทำให้โอกาสของชาติเล็ก ๆ ที่จะเข้าร่วมในมหกรรมนี้มีมากขึ้น และสร้างสีสันให้กับทัวร์นาเมนต์ได้เป็นอย่างดี

แชมป์เปี้ยนและสถิติสำคัญ

ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา มีชาติมหาอำนาจลูกหนังของยุโรปหลายประเทศที่ได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยูโร โดยมีทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบันคือ สเปน ที่คว้าแชมป์ไปแล้ว 4 สมัย (ล่าสุดคือยูโร 2024) ตามมาด้วย เยอรมนี (รวมเยอรมนีตะวันตก) ที่คว้าแชมป์ไป 3 สมัย ขณะที่อิตาลีและฝรั่งเศสคว้าไป 2 สมัย ส่วนทีมอื่น ๆ ที่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ได้แก่ สหภาพโซเวียต, เชโกสโลวาเกีย, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, กรีซ และโปรตุเกสฟุตบอล ยูโรไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขันกีฬา แต่ยังเป็นมหกรรมที่รวมวัฒนธรรม ความหลงใหล และความภาคภูมิใจของชาติในยุโรปเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ทุก ๆ สี่ปี แฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอยและติดตามการแข่งขันนี้อย่างใจจดใจจ่อ. svong-1

By svong-1

Related Post