กุ้ยโจว เป็นมณฑลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน
มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาและเนินเขา ทำให้มีทัศนียภาพที่งดงามและโดดเด่นจุดเริ่มต้นและยุคก่อนประวัติศาสตร์มีการค้นพบ เศษภาชนะของมนุษย์ยุคเริ่มต้น ที่ถ้ำกวนอินในอำเภอเฉียนซี รวมถึงชิ้นส่วนภาชนะของมนุษย์โบราณในสมัยต่างๆ มากมาย ทำให้กุ้ย โจวได้รับฉายาว่า “ตะเกียงแห่งวัฒนธรรมเอเชีย” ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคโบราณกว่า 50,000 ปีที่แล้ว
ความหลากหลายทางวัฒนธรรม
กุ้ย โจวเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศจีน มีประชากรชนกลุ่มน้อยมากกว่า 37% ของประชากรทั้งหมด ประกอบด้วยชนเผ่าสำคัญ เช่น ม้ง, ปู้อี, ต้ง, ถู่เจีย และอี๋ ความหลากหลายนี้สะท้อนผ่านประเพณีพื้นบ้าน สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีหมู่บ้านเก่าแก่และลึกลับอายุนับพันปีซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ภูเขา เช่น
- หมู่บ้านเจ้าซิงชาวต้ง (Zhaoxing Dong Village): เป็นชุมชนชาวต้งที่ใหญ่ที่สุด มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สะพานลมฝน หอกลอง และเรือนไม้ยกพื้นสูง
- หมู่บ้านซีเจียง เผ่าเหมียวพันครัวเรือน (Xijiang Miao Village): เป็นชุมชนชาวเหมียวที่ใหญ่ที่สุดเช่นกัน
- หมู่บ้านหินของชนเผ่าปู้อี: บ้านเรือนเกือบทั้งหมดสร้างด้วยหิน มีประวัติ 600-700 ปี สะท้อนถึงภูมิปัญญาในการใช้วัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์และปัจจุบัน
- การจัดตั้งรัฐบาลประชาชนมณฑล กุ้ยโจว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 1949 หลังการปลดปล่อย
- ปัจจุบัน กุ้ย โจวกำลังมุ่งเน้นการพัฒนาตามแนวคิด “1 2 3 4” ซึ่งรวมถึงการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง การอนุรักษ์ระบบนิเวศ การพลิกฟื้นชนบท การพัฒนาบิ๊กดาต้า และการส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การเป็นเมืองสมัยใหม่ และการเกษตรสมัยใหม่
- กุ้ย โจวเป็นที่รู้จักในฐานะ “จังหวัดอุทยาน” เนื่องจากมีภูมิประเทศที่สวยงามและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำตก ถ้ำ และป่าไม้ ที่นี่ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลกว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น National Geographic (ปี 2019) และ Lonely Planet (ปี 2020)
ประวัติศาสตร์ของกุ้ย โจวจึงเป็นการผสมผสานระหว่างการดำรงอยู่ของมนุษย์มายาวนาน ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย และการพัฒนาในยุคปัจจุบันที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนsvong-1