โครงการ ” คนละครึ่งพลัส ” คนละครึ่ง 68 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทิน
คนละครึ่ง 68 ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโครงการนี้จะใช้เม็ดเงินรวมกันกว่า 44,000 ล้านบาท คาดว่า จะสามารถกระตุ้น GDP ไตรมาส 4 ปี 68 เพิ่มขึ้น 0.2-0.4% จากปัจจุบันอยู่ที่จะเติบโตอยู่ที่ 0.3% ดังนั้น จึงส่งผลให้ไตรมาส 4 ปี 68 เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเกิน 1% เพราะเป็นโครงการที่ช่วยกระจายเม็ดเงินไปยังต่างจังหวัด และลงสู่ฐานรากได้ตรงจุด
เปิดไทม์ไลน์ โครงการคนละครึ่งพลัส
วันที่ 6 -10 ตุลาคม 2568
นำรายละเอียดโครงการคนละครึ่งพลัส เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบ
วันที่15 ตุลาคม 2568
เปิดให้ร้านค้าทั่วไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จนกว่าจะจบโครงการ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
วันที่ 20 – 26 ตุลาคม 2568
เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ทั้งผู้ที่เคยลงทะเบียนแล้วและผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน โดยจำกัดจำนวน 20 ล้านคน
วันที่ 29 ตุลาคม 2568
เริ่มใช้จ่ายสิทธิโครงการคนละครึ่งพลัสเป็นวันแรก เงินเข้ากระเป๋าประชาชนวันแรก
วันที่ 31 ธันวาคม 2568
สิ้นสุดระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งพลัสนี้ ดำเนินการในช่วงระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งประชาชนจะได้รับเงินคนละ 2,000 บาท ให้ใช้จ่ายได้วันละ 200 บาทคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่าในช่วงที่เคยเปิดดำเนินโครงการซึ่งขณะนั้นมีร้านค้าเข้าร่วม 1 ล้านร้านค้า นอกจากนี้ โครงการในครั้งนี้จะมีการปรับเพิ่มให้ นิติบุคลลรายย่อย หรือ ไมโครเอสเอ็มอี เข้าร่วมโครงการได้ด้วย สำหรับเกณฑ์ของนิติบุคคล หรือ ไมโครเอสเอ็มอี ที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้นั้น จะต้องอยู่ในระบบภาษี และมีตัวเลขรายได้ที่กรรมสรรพากร และอยู่ในหมวดการขายปลีกสินค้าบริการอาหารเครื่องดื่ม โดยแบ่งเป็น นิติบุคคลที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท มีจำนวน 3,000 ราย และนิติบุคคลที่มีรายได้ 1.8 ไม่เกิน 30 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่ 2,000 ราย กว่านั้น รวมเป็น 5,000 ราย svong-1