หยุดด่วน! 5 เรื่องในบ้าน ที่คุณคิดว่าสะอาด…แต่เต็มไปด้วยเชื้อโรค
ทุกคนมีกิจวัตรประจำวันที่ทำจนชิน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “นิสัยปกติ” บางอย่างที่คุณทำอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะในครัวและห้องซักผ้า อาจเป็น ภัยเงียบต่อสุขภาพ ของคุณและครอบครัว?เรามักคิดว่าการซักชุดชั้นในด้วยน้ำร้อน การทิ้งผ้าเปียกไว้ในเครื่อง หรือการล้างเนื้อดิบใต้ก๊อกน้ำ เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยชี้ชัดว่าพฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคและทำลายคุณภาพของเครื่องใช้และอาหารอีกด้วย ถ้าคุณกำลังทำ 5 นิสัยที่ดูเหมือนปกติแต่ “ผิดอย่างสิ้นเชิง” เหล่านี้อยู่ รีบเปลี่ยนพฤติกรรมทันทีเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีที่สุด!
1. การซักชุดชั้นในด้วยน้ำร้อน: ยิ่งร้อน…ยิ่ง “ล็อค” คราบสกปรก
หลายคนเชื่อว่าการใช้น้ำร้อนคือวิธี “ฆ่าเชื้อโรค” ที่ดีที่สุดสำหรับชุดชั้นใน แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม!
-
ปัญหา: เมื่อน้ำร้อนเกินไป (โดยเฉพาะน้ำเดือด) คราบสกปรก คราบเลือด หรือโปรตีนจากเหงื่อจะ “ฝังแน่น” และจับตัวติดกับเส้นใยผ้า ทำให้ทำความสะอาดได้ยากยิ่งขึ้น
-
ผลกระทบ: นอกจากคราบจะไม่หลุดแล้ว ความร้อนสูงยังทำลายเส้นใยผ้า ทำให้ชุดชั้นใน หดตัวและเสียรูปทรง เร็วขึ้น
-
วิธีแก้ไขง่าย ๆ: ซักด้วยน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง น้ำเย็นช่วยป้องกันคราบฝังแน่น และถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่ามาก
2. ปล่อยผ้าเปียกในเครื่องซักผ้านานเกินไป: แหล่งเพาะ “เชื้อรา” ชั้นดี
สำหรับคนยุ่ง ๆ การลืมผ้าเปียกไว้ในเครื่องซักผ้าหลายชั่วโมงอาจเป็นเรื่องปกติ แต่การกระทำนี้กำลังสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งไม่พึงประสงค์
-
ปัญหา: ความชื้นสูงและความอับภายในถังซักคือสถานที่โปรดของ เชื้อราและแบคทีเรีย
-
ผลกระทบ: เสื้อผ้าจะมี กลิ่นอับชื้น อย่างรุนแรง ซึ่งต้องซักซ้ำ และอาจทำให้เกิดอาการ แพ้หรือระคายเคืองผิวหนัง ได้
-
วิธีแก้ไขง่าย ๆ: เมื่อซักเสร็จแล้ว รีบนำผ้าออกตากทันที ควรตากในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือตากแดดเพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคตามธรรมชาติ
3. ล้างเนื้อดิบใต้ก๊อกน้ำโดยตรง: การกระจายเชื้อโรคสู่ห้องครัว
นิสัยการล้างเนื้อดิบ (เช่น ไก่) โดยเทน้ำแรง ๆ ใต้ก๊อกน้ำเพื่อล้างเลือดและสิ่งสกปรกออกไปนั้น ไม่ใช่การทำความสะอาด แต่คือการ “ปนเปื้อนข้าม”
-
ปัญหา: น้ำที่กระเด็นจากการล้างเนื้อดิบ (เช่น ไก่ที่มีเชื้อ $Salmonella$ หรือ $Campylobacter$) จะพาแบคทีเรียเหล่านั้น กระเด็นไปทั่ว บริเวณอ่างล้างจาน ก๊อกน้ำ เคาน์เตอร์ และอุปกรณ์ครัวอื่น ๆ
-
ผลกระทบ: เสี่ยงต่อการเกิด การปนเปื้อนข้าม (Cross-Contamination) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคที่มากับอาหาร
-
วิธีแก้ไขง่าย ๆ: หลีกเลี่ยงการล้างเนื้อดิบ หากจำเป็นจริง ๆ ให้ล้างในอ่างหรือชามแยกต่างหาก เพื่อควบคุมการกระเด็น จากนั้นทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออ่างล้างจานและบริเวณรอบ ๆ ด้วยน้ำร้อนหรือน้ำยาทำความสะอาดอย่างทั่วถึง
4. ใช้มีดและเขียงชุดเดียวสำหรับอาหารทุกประเภท: จุดเริ่มต้นของ “เชื้อโรค”
การใช้เขียงอันเดียวหั่นตั้งแต่เนื้อดิบไปจนถึงผักหรือผลไม้ที่พร้อมรับประทาน ถือเป็นความเสี่ยงด้านสุขอนามัยที่อันตรายมาก
-
ปัญหา: แบคทีเรียจากเนื้อดิบจะ ฝังตัวอยู่ในร่องรอยของการหั่น บนเขียง แม้จะล้างแล้ว หากนำไปหั่นผักหรืออาหารที่ปรุงสุกแล้วต่อ จะเกิด การปนเปื้อนข้าม ทันที
-
ผลกระทบ: เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาการ อาหารเป็นพิษ
-
วิธีแก้ไขง่าย ๆ: ใช้มีดและเขียงแยกประเภท อย่างชัดเจน เช่น มีด/เขียงสีแดงสำหรับเนื้อดิบ และมีด/เขียงสีเขียวสำหรับผัก/ผลไม้
5. เก็บอาหารที่กินไม่หมดในตู้เย็นทันที: ความชื้น เชื้อรา และสารพิษ
ตู้เย็นไม่ใช่ทางออกสำหรับอาหารทุกชนิด การเก็บอาหารแบบผิดวิธีโดยเฉพาะอาหารที่ยังอุ่นอยู่ หรืออาหารที่ไม่ควรแช่เย็น จะส่งผลเสียต่อคุณภาพและความปลอดภัย
-
ปัญหา: อาหารแห้ง ขนมปัง หรือเบเกอรี่ที่ยังร้อนหรือยังไม่ได้ห่ออย่างมิดชิด จะ ดูดซับความชื้น ในตู้เย็นได้ง่าย ทำให้เกิด เชื้อรา
-
ปัญหาเพิ่มเติม: อาหารประเภทแป้งบางชนิด เช่น มันฝรั่ง หากเก็บไม่ถูกต้อง อาจผลิตสารอันตรายได้
-
วิธีแก้ไขง่าย ๆ: รอให้อาหารเย็นสนิท ก่อนนำเข้าตู้เย็น และบรรจุในภาชนะที่ปิดมิดชิด สำหรับอาหารที่ “ไม่ควรแช่เย็น” เช่น ขนมปังหรือมันฝรั่งดิบ ให้เก็บในที่แห้งและเย็นแทน
สรุป: เลิกยึดติดกับ ‘นิสัยครอบครัว’ ที่ผิด ๆ
เรื่องในบ้าน การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในกิจวัตรประจำวัน เช่น การเปลี่ยนไปซักชุดชั้นในด้วยน้ำเย็น การจัดหาเขียงแยกชุดสำหรับวัตถุดิบแต่ละประเภท หรือการจัดการอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ ล้วนเป็นก้าวสำคัญในการ ปกป้องสุขภาพ ของคุณและครอบครัวให้พ้นจากภัยเงียบที่มองไม่เห็น svong-1
