อึ้งทั้งบาง ขนม ศศิกานต์ พูดทั้งน้ำตา นึกถึงวันที่บอกให้ทำสิ่งนั้น
กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างอดีตคู่รัก ขนม ศศิกานต์ และ ครูเต้ย อภิวัฒน์ โดยล่าสุด สาวขนมไลฟ์สดเล่าทั้งน้ำตา เผยว่ามีแค่เหตุผลเดียว ที่ทำให้ยังโกรธอยู่ เพราะทุกคนยังไม่ได้รับคำขอโทษ หนูหมดมาตั้งแต่ตอนนั้น หนูไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหนูหมด หนูรู้แค่ว่าไม่อยากอยู่ใกล้เขา เวลาเขาไปคอนเสิร์ตหนูดีใจมาก จนทะเลาะกันหนักๆ เลยรู้ว่าไม่ใช่แล้ว เลยเดินออกมาเลยง่ายๆ ผ่านเรื่องที่หนักสุดมาแล้ว หลังจากที่อากงรู้เรื่องนี้ ไม่เคยญาติดีกับเขา ใช่ค่ะ อากงทะเลาะกับเขาตลอด ตัวเองก็เป็นพ่อคน ทำไมไม่เข้าใจว่า พอวันนึงตัวเองมารู้ในเรื่องของลูกสาวโดนกระทำแบบนี้ เขารักคุณมาก เขาไม่มีสิทธิ์โกรธหรอ ให้น้องคุณมาโพสต์ว่าพ่อเรา คุณนึกถึงบ้างมั้ย ในวันที่คุณบอกให้เราไปไอนั้นอะ ทำสิ่งนั้นอะ เราไม่พูดกับพ่อแม่ไม่พูดกับใครเลย คุณควรหยุดได้ตั้งนานแล้ว
ล่าสุด “ขนม ศศิกานต์” ไลฟ์สดเล่าดราม่าชีวิตคู่ว่า.. “ยอมรับว่ามีส่วนที่ไม่ดี ไม่ชอบทำงานบ้าน ไม่ใส่ใจมากพอ เป็นแม่ศรีเรือนให้ได้ไม่มากพอ เราทะเลาะกันเรื่อยๆจนมันสะสม เรื่องผู้หญิงไม่เคยรับทราบ เพิ่งจะมารู้ตอนเลิกกันแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร ซึ่งก็ไม่ได้เลิกกันเพราะเรื่องนอกใจ แต่เลิกกันเพราะนิสัยของเราที่มันอยู่ด้วยกันไม่ได้ จุดที่ทำให้หมดใจคือวันที่รู้ว่ามีน้อง เราเดินไปบอกเขา แต่เขาพูดกลับมาว่าสร้างแต่ปัญหา เขาเอาแค่คนโตคนเดียว แล้วหนูสร้างคนเดียวหรอ ตอนแรกมีแต่คำว่าไม่เอา
แล้วเขาก็มีปัญหากับอากง หลังจากที่อากงรู้เรื่องนี้
ก็ไม่เคยญาติดีกับเขาเลย อากงทะเลาะกับเขาตลอด เพราะเขามารู้ว่าสิ่งที่ลูกสาวเขาโดนกระทำ เขาไม่มีสิทธิ์โกรธหรอ คุณนึกถึงบ้างไหมว่าวันที่คุณบอกให้เราไปเอาเด็กออก คุณจะไม่ให้คนอื่นโกรธคุณได้ยังไง เรื่องนี้คือเรื่องที่หนูรับไม่ได้ อยากให้เขาย้อนคิดบ้าง ตอนคลอดลูก ครูเต้ยจะไปขายนาฬิกา ขนมไม่อยากให้เขาต้องเสียของส่วนตัว จึงไปขายทองตัวเอง โดยให้อากงกับแม่ยายช่วย และโกหกว่าจะเอาไปลงทุน ครูเต้ยรู้ทีหลัง แล้วโอนเงินคืนมา บอกว่าให้เก็บไว้ให้ลูก ก่อนหน้านี้พี่เต้ยดูแลดีมาตลอดไม่ได้ขาดตกบกพร่องในเรื่องลูก เรื่องคนอื่นภายในบ้านไม่ได้มีเรื่องเงินเดือน ของแม่ยายกับอากงก็จะมีค่าข้าววันละ 300 บาท แล้วก็ค่าอะไรเล็กๆน้อยๆ ค่าเลี้ยงดูเคยขอไปแล้วเดือนละ 50,000 บาท 2 คน svong-1
แบบไม่ต้องทำบิลเบิก แต่เขาไม่สะดวกที่จะให้แบบนั้น เขาสะดวกที่จะให้ทำบิลเบิก ตอนคบกัน บ้านที่กรุงเทพฯพี่เต้ยจะเก็บไว้ให้ลูก เขาก็เลยผ่อนต่อเอง หลังจากเลิกกันก็ได้มามีการคุยกันว่าทุกอย่างของลูกจะหาร 2 ซึ่งหนูก็ยินดีที่จะหาร เพราะเขาก็คือลูกของหนู แต่มันมามีปัญหาตรงที่เมื่อวานส่งบิลไปเบิก มีส่วนของค่าน้ำมันรถ alphard เพราะเป็นรถที่ลูกใช้ เขาก็ถามลูกไปไหน เขาก็พิมพ์มาว่า คนที่ยังด่าเขาแซะ เขาไม่ละอายใจบ้างหรอที่ใช้ของๆเขา หนูก็เลยคิดว่าถ้างั้นควรคืน พี่เต้ยไม่ได้เคยขอรถขอบ้านคืน เขายังดูแลดีเหมือนเดิม ไม่ได้บอกว่าเขาไม่ดี ในส่วนดีเขาก็มี เพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องนี้ที่รับไม่ได้ ที่คนรอบตัวรับไม่ได้เหตุผลที่ทุกคนยังตามว่าอยู่ เพราะทุกคนก็ยังไม่เคยได้รับคำขอโทษจากเรื่องนี้”