อังคาร. ธ.ค. 2nd, 2025

เมล็ดมหัศจรรย์ฉายา “ราชินีแห่งถั่ว” ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่ถั่ว ประโยชน์และโทษที่ต้องรู้

ราชินีแห่งถั่ว

เมล็ดมหัศจรรย์ฉายา ” ราชินีแห่งถั่ว ” ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่ถั่ว ประโยชน์และโทษที่ต้องรู้

เมล็ดมหัศจรรย์ฉายา "ราชินีแห่งถั่ว" ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่ถั่ว ประโยชน์และโทษที่ต้องรู้

 

เมล็ดมหัศจรรย์ฉายา “ราชินีแห่งถั่ว” ทั้งที่จริงๆ ไม่ใช่ถั่ว ประโยชน์และโทษที่ต้องรู้ อาหารสุขภาพที่เป็นดาบสองคม อัลมอนด์ ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งถั่ว” เพราะเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ทั้งโปรตีน ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญ หลายคนเลือกกินเป็นของว่างเพื่อสุขภาพ แต่ความจริงแล้ว อัลมอนด์ไม่ใช่ถั่ว แท้จริงมันคือ เมล็ดของผลไม้ตระกูล Prunus ที่มีเปลือกแข็ง (stone fruit) คล้ายกับลูกพีชหรือลูกพลัม เพียงแต่เรานำเมล็ดด้านในมากินจนเรียกติดปากว่าเป็นถั่ว

คุณค่าทางโภชนาการของอัลมอนด์ (ต่อ 100 กรัม)

  • พลังงาน : 579 กิโลแคลอรี
  • โปรตีน : 21 กรัม
  • ไขมัน : 50 กรัม (ส่วนใหญ่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว)
  • คาร์โบไฮเดรต : 22 กรัม
  • ไฟเบอร์ : 12 กรัม
  • แคลเซียม : 269 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก : 3.7 มิลลิกรัม
  • วิตามินอี : 25.6 มิลลิกรัม

 

ประโยชน์ของอัลมอนด์

  1. บำรุงหัวใจและควบคุมคอเลสเตอรอล – อัลมอนด์อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) งานวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทานอัลมอนด์เป็นประจำสามารถรักษาระดับไขมันดีให้คงที่ ลดคอเลสเตอรอลรวมและไตรกลีเซอไรด์ได้

  2. ต้านอนุมูลอิสระ – อัลมอนด์มีวิตามินอี แมกนีเซียม และโพแทสเซียม ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระและสนับสนุนการไหลเวียนของออกซิเจนและสารอาหารในร่างกาย อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยบางชิ้นพบว่าผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับปริมาณและสภาพร่างกายของแต่ละคน

  3. เสริมสมองและความจำ – วิตามินอีและแมกนีเซียมในอัลมอนด์ช่วยปกป้องเซลล์สมอง งานวิจัยระบุว่าผู้ที่บริโภคอัลมอนด์เป็นประจำสามารถรักษาความจำหลังมื้ออาหารได้ดีขึ้น และมีสมรรถภาพด้านความจำดีขึ้นราว 50% ในกลุ่มผู้ที่ลดน้ำหนัก

  4. ช่วยระบบการเผาผลาญและควบคุมความอยากอาหาร – โปรตีนและไฟเบอร์ในอัลมอนด์ช่วยให้อิ่มนาน ลดการกินจุกจิก และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร งานวิจัยบางชิ้นพบว่าการรับประทานอัลมอนด์เป็นของว่างช่วยลดความอยากอาหารและอาจช่วยลดความเสี่ยงน้ำหนักขึ้น svong-1

  5. ช่วยระบบขับถ่าย – อัลมอนด์มีไฟเบอร์สูง ช่วยป้องกันท้องผูกและส่งเสริมการทำงานของลำไส้

  6. บำรุงผิวพรรณ – วิตามินอีในอัลมอนด์ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์ และลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ

ควรกินแค่ไหนต่อวัน

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 23 เมล็ด หรือประมาณ 28 กรัมต่อวัน (1 กำมือเล็ก) เพื่อให้ได้ประโยชน์โดยไม่เกินความต้องการร่างกาย

โทษที่ควรระวัง

อัลมอนด์อุดมด้วยไขมันดี โปรตีน ไฟเบอร์ และวิตามินอี แต่กินมากเกินไปก็มีผลเสีย

  1. ลดการดูดซึมแร่ธาตุ – กรดไฟติกและไฟเบอร์สูง อาจลดการดูดซึมแคลเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี

  2. ปัญหาทางเดินอาหาร – กินเยอะโดยไม่ดื่มน้ำพอ อาจท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสีย

  3. น้ำหนักเพิ่ม – พลังงานสูง ~160 แคลอรีต่อออนซ์ กินเกินอาจทำให้น้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัว

  4. วิตามินอีเกินและกระทบการแข็งตัวของเลือด – การกินมากร่วมกับอาหารเสริมอื่น ๆ เสี่ยงเลือดออกง่ายหรือปัญหาสุขภาพ

  5. ความเสี่ยงอื่น ๆ – ออกซาเลตสูงทำให้นิ่วในไตได้, อัลมอนด์ขมมีไซยาไนด์, และอาจเกิดอาการแพ้

 

By svong-1

Related Post