เปิดประวัติ “Squid Game”: ซีรีส์เกาหลีที่เขย่าโลก
Squid Game (สควิดเกม เล่นลุ้นตาย) คือซีรีส์ดราม่า-สยองขวัญ-เอาชีวิตรอด สัญชาติเกาหลีใต้ ที่สร้างและกำกับโดย ฮวัง ดง-ฮยอก ออกฉายครั้งแรกทาง Netflix เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกอย่างรวดเร็ว และเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่มีผู้ชมมากที่สุดตลอดกาลของ Netflix
แนวคิดและการพัฒนา
แนวคิดเบื้องหลัง เริ่มต้นขึ้นในปี 2551 โดยผู้กำกับฮวัง ดง-ฮยอก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปัญหาหนี้สินส่วนตัวและช่องว่างทางสังคมที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ เขานำแนวคิดเกี่ยวกับการแข่งขันเอาชีวิตรอดที่ใช้เกมเด็กเล่นมาเป็นองค์ประกอบหลัก และพยายามสะท้อนประเด็นความเหลื่อมล้ำ ความสิ้นหวัง และทางเลือกของมนุษย์ที่ถูกบีบคั้น เดิมที ฮวัง ดง-ฮยอก ตั้งใจจะสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่เนื่องจากพล็อตเรื่องที่ซับซ้อนและขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวได้ เขาจึงเก็บไอเดียนี้ไว้เกือบ 10 ปี จนกระทั่ง Netflix เริ่มขยายการลงทุนในเนื้อหาเกาหลีใต้ ทำให้เขามีโอกาสนำโปรเจกต์นี้มาพัฒนาต่อเป็นซีรีส์
ความสำเร็จและปรากฏการณ์ระดับโลก
หลังจากออกฉาย ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ชมทั่วโลก ด้วยเนื้อเรื่องที่ตึงเครียด หักมุม ตัวละครที่มีมิติ และการวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่เฉียบคม ซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นอันดับ 1 ใน Netflix กว่า 94 ประเทศ และกลายเป็นซีรีส์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Netflix ภายในเวลาเพียง 17 วัน โดยมียอดผู้เข้าชมสูงถึง 142 ล้านครัวเรือนทั่วโลกภายในสี่สัปดาห์แรกของการเปิดตัว
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ
- เนื้อเรื่องแปลกใหม่และน่าติดตาม: การนำเกมเด็กเล่นที่คุ้นเคยมาใช้เป็นเกมแห่งความตายสร้างความขัดแย้งที่น่าสนใจ
- การวิพากษ์สังคม: สะท้อนปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและศีลธรรมของมนุษย์ได้อย่างเจ็บปวด
- ตัวละครที่น่าจดจำ: ตัวละครแต่ละตัวมีภูมิหลังและแรงจูงใจที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมเอาใจช่วยหรือเกลียดชัง
- งานสร้างคุณภาพสูง: ภาพสวยงาม โปรดักชั่นอลังการ แม้จะเป็นซีรีส์ที่มีฉากโหดร้าย
- การตลาดแบบปากต่อปาก: ผู้ชมบอกต่อความน่าสนใจของซีรีส์ผ่านโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว
- เข้าถึงง่ายด้วย Netflix: การเผยแพร่ทั่วโลกพร้อมคำบรรยายและพากย์หลายภาษาทำให้ผู้ชมจากทุกมุมโลกเข้าถึงได้ง่าย
ผลกระทบและรางวัล
SquidGame ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในด้านผู้ชมเท่านั้น แต่ยังได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และได้รับรางวัลมากมาย รวมถึง:
- รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (อู ยอง-ซู)
- รางวัล Screen Actors Guild Awards (SAG Awards) สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่า (อี จอง-แจ) และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในซีรีส์ดราม่า (จอง โฮ-ยอน) ซึ่งถือเป็นนักแสดงชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลนี้
- รางวัล Emmy Awards (Primetime Emmy Awards) หลายสาขา รวมถึงผู้กำกับซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายในซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม (อี จอง-แจ)
ความสำเร็จของ SquidGame ได้ตอกย้ำอิทธิพลของวัฒนธรรมบันเทิงเกาหลีใต้ (K-Content) ให้แพร่หลายไปทั่วโลก และเปิดประตูให้เนื้อหาจากประเทศอื่นๆ ได้รับความสนใจจากผู้ชมในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
อนาคต
จากความสำเร็จมหาศาล Netflix ได้ประกาศสร้าง SquidGame ซีซัน 2 โดยผู้กำกับฮวัง ดง-ฮยอก ยังคงรับหน้าที่กำกับและเขียนบท มีการเปิดเผยนักแสดงชุดใหม่และนักแสดงหลักบางส่วนจากซีซันแรกที่จะกลับมา คาดว่าจะออกฉายในปี 2568 หรือหลังจากนั้น รวมถึงมีการสร้างรายการเรียลลิตี้โชว์ที่อิงจากเกมในซีรีส์ชื่อ “Squid Game: The Challenge” อีกด้วย จึงไม่เพียงเป็นแค่ซีรีส์ แต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงพลังของการเล่าเรื่องที่แข็งแกร่ง และความสามารถของเนื้อหาเกาหลีใต้ในการดึงดูดผู้ชมทั่วโลก svong-1
