3 ข้อผิดพลาดในการดื่มชาเขียว
จากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาจกลายเป็นยาพิษทำร้ายไต
เตือน 3 ข้อผิดพลาดในการดื่ม “ชาเขียว” จากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาจกลายเป็นยาพิษทำร้ายไตโดยไม่รู้ตัว ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชื่นชอบ และถือว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตก็สามารถดื่มได้ 3 พฤติกรรมการดื่มชาเขียวบางอย่างอาจส่งผลเสียต่อไตอย่างเงียบ ๆ จนกลายเป็นภัยต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว
ดื่มชาเขียวหลังจากดื่มแอลกอฮอล์
- หลายคนเข้าใจผิดว่าการดื่มชาเขียวหลังจากดื่มเหล้าจะช่วยให้สร่างเมา เพราะชาเขียวมีฤทธิ์กระตุ้นสมองและทำให้สดชื่น แต่ในความเป็นจริง การดื่มชาเขียวหลังแอลกอฮอล์จะเพิ่มภาระให้หัวใจ และยังเป็นอันตรายต่อไตอีกด้วย ชาเขียวมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ หากดื่มหลังจากดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานหนัก ส่งผลให้ไตต้องกรองทั้งแอลกอฮอล์และสารในชาในเวลาเดียวกัน ซึ่งสร้างความกดดันและอาจทำให้ไตเสียหายได้
ดื่มชาเขียวตอนท้องว่าง
- บางคนดื่มชาเขียวแทนน้ำเปล่า โดยเฉพาะขณะท้องว่าง เพื่อดับกระหายหรือระงับความหิว แต่ชาเขียวมีสารฟลูออไรด์ (Fluorine) ซึ่งหากเข้าสู่ร่างกายในขณะท้องว่าง อาจไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกคลื่นไส้ วิงเวียน นอกจากนี้ สารในชาเขียวจะถูกขับเข้าสู่ไตโดยตรง และทำให้ไตทำงานหนักขึ้นโดยไม่จำเป็น
ดื่มชาเขียวแทนน้ำเปล่า และชงชาเข้มเกินไป
- การดื่มชาเขียวแทนน้ำเปล่าเป็นประจำ โดยเฉพาะชาเข้มจัด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต เพราะในชาเขียวมีกรดออกซาลิก (Oxalic acid) ซึ่งหากสะสมในร่างกายมากเกินไป จะจับตัวกับแคลเซียมกลายเป็นนิ่วในไต ไม่เพียงแต่ไตจะได้รับผลกระทบ การดื่มชาเข้มเกินไปยังอาจส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหาร และหากดื่มก่อนนอนอาจทำให้นอนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย และกระทบต่อการทำงานของไตในระยะยาว svong-1