จันทร์. ก.ค. 7th, 2025

นกเปล้าหน้าแดง อัญมณีแห่งป่าฝน

นกเปล้าหน้าแดง

นกเปล้าหน้าแดง อัญมณีแห่งป่าฝน

 

ในบรรดานกพิราบและนกเขาหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในป่าเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นกเปล้าหน้าแดง (Pink-necked Green Pigeon – Treron vernans) โดดเด่นด้วยสีสันที่สดใสและพฤติกรรมที่น่าสนใจ ทำให้มันเป็นอัญมณีที่แท้จริงของป่าฝน

 

 

ลักษณะเด่นที่ทำให้หลงใหล

 

เป็นนกขนาดกลาง มีลำตัวยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร ชื่อ “เปล้า” มาจากลักษณะนิสัยที่ชอบกินผลไม้และเมล็ดพืชเป็นหลัก แต่สิ่งที่ทำให้นกชนิดนี้สะดุดตาก็คือสีสันที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนกตัวผู้:

  • สีชมพูโดดเด่น: นกตัวผู้มีเอกลักษณ์อยู่ที่สีชมพูอมม่วงบริเวณคอและหน้าอก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “หน้าแดง” และ “Pink-necked” ในภาษาอังกฤษ
  • ลำตัวสีเขียวสด: ลำตัวส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยขนสีเขียวมะกอกสดใส กลมกลืนไปกับใบไม้ในป่า
  • แต้มสีเหลืองและเทา: บริเวณใต้ท้องมีแต้มสีเหลืองอ่อน และปีกอาจมีเฉดสีเทาหรือดำแซมบ้าง

ในทางกลับกัน นกตัวเมียมีสีสันที่เรียบง่ายกว่า โดยส่วนใหญ่เป็นสีเขียวมะกอกตลอดทั้งตัว มีเพียงสีเหลืองอ่อนบริเวณท้อง ทำให้ง่ายต่อการจำแนกเพศ

 

ถิ่นอาศัยและพฤติกรรม

 

แพร่กระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ พวกมันมักอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อน ป่าชายเลน สวนผลไม้ และแม้แต่สวนสาธารณะในเมืองที่มีต้นไม้ใหญ่และแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์

  • อาหารหลัก: เป็นนกกินผลไม้เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกไทร มะเดื่อ และผลเบอร์รี่ต่างๆ พวกมันมีบทบาทสำคัญในการแพร่กระจายเมล็ดพืช ช่วยในการขยายพันธุ์ของต้นไม้ในระบบนิเวศ
  • การเคลื่อนย้าย: พวกมันมักเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างแหล่งอาหารต่างๆ ตามฤดูกาลของผลไม้
  • เสียงร้อง: เสียงร้องของ เป็นเสียงคล้ายการครางเบาๆ หรือเสียง “ครืด ครืด” ที่นุ่มนวล มักได้ยินในเวลาเช้าตรู่หรือช่วงเย็น

 

 

สถานะการอนุรักษ์

 

ปัจจุบัน จัดอยู่ในกลุ่ม สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ (Least Concern) ตามการจัดจำแนกของ IUCN (International Union for Conservation of Nature) เนื่องจากมีประชากรที่ค่อนข้างคงที่และถิ่นอาศัยที่กว้างขวาง อย่างไรก็ตาม การทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นภัยคุกคามในระยะยาว การที่ ยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในหลายพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ในภูมิภาคนั้นๆ การอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่และแหล่งอาหารของพวกมันจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ “อัญมณีแห่งป่าฝน” ชนิดนี้ยังคงโบยบินอย่างอิสระและเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่งของเราต่อไป svong-1

 

By svong-1

Related Post