รู้แล้วจบ ” อะโวคาโด ” หั่นแล้วไม่เปลี่ยนเป็นสีดำ หากถูสิ่งนี้ลงไป ไม่ใช่มะนาว!
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่มันอร่อยและคุณค่าทางโภชนาการสูง สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า อาหารกลางวัน หรือแม้แต่ในเมนูมื้อเย็น อย่างไรก็ตาม เมื่ออะโว คาโดสุกแล้ว มักจะเสียได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อถูกตัดแล้วไม่ได้รับการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
เมื่อเราตัดอะโว คาโดและไม่ได้กินหมดในครั้งเดียว ส่วนที่เหลือมักจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและนิ่มเร็ว สาเหตุเกิดจากเอนไซม์ธรรมชาติที่ชื่อว่า polyphenol oxidase ซึ่งทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำให้เนื้ออะโว คาโดเกิดการเปลี่ยนสี แต่กระบวนการนี้สามารถป้องกันได้ หากเรารู้วิธีเก็บรักษาที่ถูกต้อง
![]()
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากคุณมักจะตัดอะโว คาโดแล้วเหลือไว้ สามารถป้องกันไม่ให้เนื้ออะโว คาโดดำได้ง่ายๆ ด้วยการทาน้ำมันมะกอกบางๆ ลงบนพื้นผิวที่ถูกตัด น้ำมันจะทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันอากาศไม่ให้สัมผัสกับเนื้อผลไม้โดยตรง ช่วยลดการเกิดออกซิเดชันที่ทำให้สีเปลี่ยนเป็นน้ำตาล
นอกจากนั้น น้ำมันมะกอกยังช่วยเพิ่มรสชาติและความมันให้กับอะโว คาโด ทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้นเมื่อรับประทาน โดยเฉพาะเมื่อนำไปใช้ในเมนูสลัดหรือแซนด์วิช
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร
เว็บไซต์ The Spruce Eats อธิบายว่า “น้ำมันเป็นเกราะป้องกันออกซิเจนได้อย่างดี การทาน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชบางๆ บนเนื้ออะโว คาโดที่ถูกตัด จะช่วยลดการเปลี่ยนสี แต่เคล็ดลับนี้เหมาะกับอะโว คาโดที่ยังเป็นชิ้น ไม่เหมาะกับเมนูที่บดละเอียด เช่น กัวคาโมเล เพราะพื้นผิวไม่เรียบ ทำให้ทาน้ำมันได้ไม่ทั่วถึง”
หลังจากทาน้ำมันแล้ว ควรเก็บอะโว คาโดในภาชนะปิดสนิท หรือห่อด้วยพลาสติกแรป แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เพื่อรักษาความสดและชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันจากอุณหภูมิต่ำ
ผู้เชี่ยวชาญจาก Hello Fresh เสริมว่า “ควรเก็บอะโว คาโดที่ถูกตัดแล้วไว้ในตู้เย็นเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้สุกต่อและเนื้อนิ่มเกินไป แนะนำให้ห่อส่วนที่ถูกตัดด้วยพลาสติกแรปแน่นๆ และควรรับประทานภายใน 3 วัน หากอะโว คาโดสุกมากแล้ว ควรกินให้หมดภายในวันเดียวจะดีที่สุด”
หากไม่มีพลาสติกแรป คุณสามารถใช้วิธีทาน้ำมันมะกอกบางๆ บนผิวที่สัมผัสอากาศแทนได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยสร้างชั้นป้องกัน และยังเพิ่มรสชาติกลมกล่อมให้กับผลไม้นี้อีกด้วย
ประโยชน์ของอะโว คาโดต่อสุขภาพ
อะโว คาโดอุดมไปด้วยไขมันดี วิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงหัวใจ ระบบย่อยอาหาร ผิวพรรณ และสายตา อีกทั้งยังช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ดี การรู้จักเก็บรักษาอะโว คาโดอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยยืดอายุการบริโภค แต่ยังช่วยลดการสูญเสียสารอาหารและลดการสูญเปล่าของอาหารได้อีกด้วย svong-1
